8 ประเภทของโลโก้ที่ใช้กันทั่วไป

เผยแพร่แล้ว: 2023-03-10

8 ประเภทของโลโก้ที่ใช้กันทั่วไป
เมื่อพูดถึงการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจของคุณ การออกแบบโลโก้เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุด โลโก้ที่ดึงดูดสายตาสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง มันถ่ายทอดข้อความแบรนด์ของคุณและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของคุณ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเป็นพันธมิตรกับบริษัทออกแบบโลโก้หรือบริษัทออกแบบที่ดีที่สุดจึงมีความสำคัญ เพื่อสร้างงานออกแบบที่เป็นมืออาชีพและดึงดูดสายตา โลโก้ที่ห่อหุ้มตัวตนของแบรนด์คุณและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

ในบล็อกโพสต์นี้ เราจะพูดถึงโลโก้ 8 ประเภทที่ใช้กันทั่วไปโดยบริษัทโลโก้ที่ดีที่สุด เพื่อช่วยคุณเลือกโลโก้ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือรีแบรนด์ของธุรกิจเดิม โพสต์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทต่างๆ ของโลโก้ที่มีอยู่ และตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการออกแบบโลโก้ของคุณ มาดำดิ่งและสำรวจโลกแห่งการออกแบบโลโก้อันน่าทึ่งกันเถอะ!

  1. โลโก้เวิร์ดมาร์ค

    โลโก้ wordmark เป็นโลโก้ประเภทหนึ่งที่ใช้ข้อความเท่านั้น โดยไม่มีสัญลักษณ์หรือกราฟิกใดๆ มันขึ้นอยู่กับรูปแบบตัวอักษร การเลือกใช้ฟอนต์ สี และการเว้นวรรคเพื่อสร้างเครื่องหมายของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก

    เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีชื่อสั้น ๆ และสามารถสื่อสารชื่อแบรนด์และข้อความถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    โลโก้ตัวอักษรที่ออกแบบมาอย่างดีสามารถเป็นที่จดจำและเป็นสัญลักษณ์ได้

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้ wordmark:

    • โคคาโคลา
    • Google
    • ไอบีเอ็ม
    • เฟดเอ็กซ์
    • วีซ่า
    • ไมโครซอฟท์
    • ดิสนีย์
    • เน็ตฟลิกซ์

    โลโก้ Wordmark ยังคงอยู่เมื่อเวลาผ่านไป
    และยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มั่นคงและน่าจดจำผ่านการออกแบบโลโก้

    ข้อดี:

    • สื่อสารชื่อแบรนด์และข้อความถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • สามารถสื่อถึงบุคลิกและโทนสีของแบรนด์ผ่านการเลือกใช้ฟอนต์และสี
    • น่าจดจำและเป็นสัญลักษณ์เมื่อได้รับการออกแบบอย่างดี
    • ทางเลือกที่เหนือกาลเวลาและคลาสสิกสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

    ข้อเสีย:

    • ไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวหรือข้อความของแบรนด์ที่ซับซ้อน
    • โลโก้ตัวอักษรที่ออกแบบมาไม่ดีอาจอ่านยากและอาจไม่สามารถสื่อสารข้อความของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวหรือข้อความของแบรนด์ที่ซับซ้อน
    • โลโก้คำที่ออกแบบมาไม่ดีสามารถเป็นได้
  2. โลโก้เลตเตอร์มาร์ค

    โลโก้ตัวอักษรเป็นโลโก้ประเภทหนึ่งที่ใช้ชื่อย่อของบริษัทหรือตัวย่อเป็นองค์ประกอบหลัก โลโก้ประเภทนี้อาศัยการพิมพ์ การเลือกใช้ฟอนต์ และสีเพื่อสร้างเครื่องหมายของแบรนด์ที่แตกต่างและเป็นที่จดจำ

    ข้อได้เปรียบหลักของโลโก้แบบตัวอักษรคือสามารถสื่อสารชื่อแบรนด์และข้อความถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัว

    เนื่องจากโลโก้อาศัยการพิมพ์เพียงอย่างเดียวจึงสามารถถ่ายทอดบุคลิกและโทนของแบรนด์ผ่านแบบอักษรและสีที่เลือกใช้

    โลโก้ตัวอักษรที่ออกแบบมาอย่างดีสามารถเป็นที่จดจำและเป็นสัญลักษณ์ได้
    การสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำและเป็นที่จดจำให้กับลูกค้า

    โดยรวมแล้ว โลโก้ตัวอักษรเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งโดยใช้ชื่อย่อหรือตัวย่อ โลโก้ตัวอักษรสามารถถ่ายทอดบุคลิกและคุณค่าของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวเลือกแบบอักษรและสีที่เหมาะสม

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้ตัวอักษร:

    • ไอบีเอ็ม
    • องค์การนาซ่า
    • ซีเอ็นเอ็น
    • เอชพี
    • เอชบีโอ
    • EA (ศิลปะอิเล็กทรอนิกส์)
    • เอชแอนด์เอ็ม
    • เอทีแอนด์ที

    โลโก้ Lettermark เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวๆ หรือผู้ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งโดยใช้ชื่อย่อหรือตัวย่อ

    พวกเขาสามารถถ่ายทอดบุคลิกและคุณค่าของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อได้รับการออกแบบมาอย่างดี

    ข้อดี:

    • สื่อสารชื่อแบรนด์และข้อความถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัว
    • น่าจดจำและเป็นสัญลักษณ์เมื่อได้รับการออกแบบอย่างดี
    • ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวหรือผู้ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งโดยใช้ชื่อย่อหรือตัวย่อ

    ข้อเสีย:

    • อาจไม่ถ่ายทอดข้อความหรือคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีข้อความซับซ้อนหรือบริการหลายอย่าง
    • โลโก้ตัวหนังสือที่ออกแบบมาไม่ดีอาจอ่านยากและอาจไม่สามารถสื่อสารชื่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. โลโก้รูปภาพ

    โลโก้รูปภาพคือโลโก้ประเภทหนึ่งที่ใช้กราฟิกหรือสัญลักษณ์เพื่อแสดงถึงแบรนด์ โลโก้เหล่านี้ใช้ภาพที่มองเห็นแทนข้อความเพื่อสื่อสารข้อความของแบรนด์และสร้างการจดจำแบรนด์

    ธุรกิจต่างๆ มักใช้โลโก้รูปภาพเพื่อสื่อถึงความรู้สึกสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความขี้เล่น

    พวกเขาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์และการรับรู้ทางภาพที่ชัดเจน

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้รูปภาพ:

    • แอปเปิล
    • ไนกี้
    • ทวิตเตอร์
    • เป้า
    • เพลย์บอย
    • เปลือก
    • ลาคอส
    • เฟอร์รารี่

    โลโก้รูปภาพเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ทางภาพที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำผ่านการใช้ภาพที่มองเห็นได้ เมื่อได้รับการออกแบบมาอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะสามารถถ่ายทอดบุคลิกและคุณค่าของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อดี:

    • จำได้ง่ายและน่าจดจำ
    • สามารถถ่ายทอดข้อความของแบรนด์และบุคลิกภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ข้อความ
    • ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา

    ข้อเสีย:

    • อาจไม่สามารถสื่อสารชื่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวหรือข้อความของแบรนด์ที่ซับซ้อน
    • โลโก้รูปภาพที่ออกแบบมาไม่ดีอาจเข้าใจยากหรืออาจสื่อถึงข้อความหรือค่านิยมของแบรนด์ได้ไม่ถูกต้อง
  4. โลโก้นามธรรม

    โลโก้นามธรรมคือโลโก้ประเภทหนึ่งที่ใช้รูปทรง รูปทรง และสีที่เป็นนามธรรมเพื่อแสดงถึงตราสินค้า โลโก้เหล่านี้ใช้การแสดงออกที่สร้างสรรค์และศิลปะเพื่อสื่อข้อความของแบรนด์และสร้างการจดจำแบรนด์

    โลโก้นามธรรมมักใช้โดยธุรกิจที่ต้องการถ่ายทอดความรู้สึกของความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความคิดริเริ่ม

    โลโก้นามธรรมไม่เหมือนกับโลโก้รูปภาพตรงที่ไม่ได้แสดงถึงวัตถุหรือรูปภาพเฉพาะใดๆ

    แต่จะใช้รูปทรงและสีเพื่อสร้างการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำซึ่งแสดงถึงบุคลิกและคุณค่าของแบรนด์

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้นามธรรม:

    • เป๊ปซี่
    • อาดิดาส
    • โอลิมปิก
    • กสช
    • มิตซูบิชิ
    • บี.พี
    • Nike (บทคัดย่อบางส่วน)
    • โตโยต้า (บทคัดย่อบางส่วน)

    ข้อดี:

    • การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์
    • จำได้ง่ายและน่าจดจำ
    • สามารถถ่ายทอดข้อความของแบรนด์และบุคลิกภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใครและสร้างสรรค์
    • ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา

    ข้อเสีย:

    • อาจไม่สามารถสื่อสารชื่อแบรนด์หรือข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวกว่านี้หรือข้อความของแบรนด์ที่ซับซ้อน
    • โลโก้นามธรรมที่ออกแบบมาไม่ดีอาจเข้าใจยากหรืออาจสื่อถึงข้อความหรือค่านิยมของแบรนด์ได้ไม่ถูกต้อง
  5. โลโก้มาสคอต

    โลโก้มาสคอตเป็นโลโก้ประเภทหนึ่งที่ใช้ภาพประกอบตัวละคร ซึ่งมักเป็นรูปสัตว์หรือบุคคลเพื่อแสดงถึงแบรนด์

    โลโก้เหล่านี้มักใช้โดยทีมกีฬา โรงเรียน และธุรกิจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าจดจำและมีส่วนร่วม

    โลโก้มาสคอตออกแบบมาเพื่อสื่อถึงความสนุกสนาน พลังงาน และความกระตือรือร้น พวกเขามักจะมีสีสันสดใส เส้นหนา และคุณลักษณะที่เกินจริงเพื่อสร้างตัวละครที่น่าจดจำและมีส่วนร่วม

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้มาสคอต:

    • ผู้พันแซนเดอร์ แห่ง KFC
    • มิสเตอร์พีนัทชาวสวน
    • มิชลินแมนของมิชลิน
    • Poppin' Fresh Doughboy ของ Pillsbury
    • ตุ๊กแกของ Geico
    • กระต่ายของ Energizer
    • ยักษ์เขียวจอลลี่
    • แมคโดนัลด์ โรนัลด์ แมคโดนัลด์
    • Julius Pringles ของพริงเกิลส์
    • Tony the Tiger สำหรับ Frosted Flakes ของ Kellogg
    • Kool-Aid Man สำหรับคูล-เอด

    โลโก้มาสคอตเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าจดจำและเชิญชวนโดยใช้ตัวการ์ตูน

    เมื่อสร้างอย่างชำนาญ โลโก้เหล่านี้สามารถสื่อสารจิตวิญญาณและความเชื่อของบริษัทให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง

    ข้อดี:

    • จำได้ง่ายและน่าจดจำ
    • สามารถสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับลูกค้า
    • ใช้งานได้หลากหลายและใช้ได้กับผลิตภัณฑ์และสินค้าแบรนด์ต่างๆ
    • สามารถสื่อสารตัวตนและอุดมคติของบริษัทได้สำเร็จ
    • สามารถใช้เพื่อดึงดูดผู้ชมที่ตั้งใจไว้โดยเฉพาะ

    ข้อเสีย:

    • อาจไม่สามารถสื่อสารชื่อแบรนด์หรือข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีชื่อยาวกว่านี้หรือข้อความของแบรนด์ที่ซับซ้อน
    • โลโก้มาสคอตที่ออกแบบมาไม่ดีอาจเข้าใจยากหรืออาจสื่อถึงข้อความหรือค่านิยมของแบรนด์ได้ไม่ถูกต้อง
    • การสร้างและบำรุงรักษาอาจมีราคาแพง
    • อาจไม่เหมาะกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมทุกประเภท เนื่องจากบางประเภทอาจต้องการภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพหรือจริงจังมากขึ้น
  6. โลโก้ชุดค่าผสม

    โลโก้แบบผสมตามชื่อที่แนะนำคือโลโก้ที่รวมองค์ประกอบการออกแบบตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป เช่น ข้อความและรูปภาพหรือไอคอน

    โลโก้เหล่านี้มักจะใช้โลโก้ตัวอักษรหรือโลโก้ตัวอักษรรวมกับโลโก้รูปภาพหรือนามธรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำ

    โลโก้แบบผสมมักใช้โดยธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมทั้งชื่อบริษัทและการแสดงภาพของแบรนด์

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้ร่วมกัน:

    • อาดิดาส
    • เฟดเอ็กซ์
    • มาสเตอร์การ์ด
    • เป๊ปซี่
    • โตโยต้า

    ด้วยการรวมข้อความและภาพ โลโก้แบบผสมสามารถสื่อสารข้อความและคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็สร้างการออกแบบที่ดึงดูดสายตาและน่าจดจำ

    ข้อดี:

    • โลโก้แบบผสมสามารถสื่อสารชื่อและข้อความของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็สร้างการออกแบบที่ดึงดูดสายตาและน่าจดจำ
    • พวกเขาสามารถสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใครและเป็นที่จดจำซึ่งทำให้พวกเขาแตกต่างจากคู่แข่ง
    • การรวมกันของข้อความและภาพช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของวิธีการใช้โลโก้ในสื่อและแพลตฟอร์มต่างๆ
    • พวกเขาสามารถช่วยสร้างความรู้สึกเป็นมืออาชีพและถูกต้องตามกฎหมายสำหรับแบรนด์

    ข้อเสีย:

    • โลโก้แบบผสมอาจมีความซับซ้อนและออกแบบได้ยากกว่าโลโก้ประเภทที่เรียบง่าย เช่น อักษรหรือตัวอักษร
    • การรวมข้อความและภาพเข้าด้วยกันอาจทำให้โลโก้อ่านหรือจดจำได้ยากขึ้นในขนาดที่เล็กลง
    • หากดำเนินการไม่ถูกต้อง ข้อความและภาพผสมกันอาจขัดแย้งกันหรือทำให้เกิดความสับสนได้
    • โลโก้แบบผสมอาจมีราคาแพงกว่าในการผลิตและใช้งานมากกว่าประเภทโลโก้ที่เรียบง่าย
  7. โลโก้ตราสัญลักษณ์

    โลโก้สัญลักษณ์เป็นโลโก้ประเภทหนึ่งที่รวมข้อความและภาพไว้ในการออกแบบเดียว โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปของตราหรือตราประทับ

    ซึ่งแตกต่างจากโลโก้แบบผสม ข้อความและภาพในโลโก้ตราสัญลักษณ์มักจะอยู่ในรูปทรงหรือสัญลักษณ์เดียว ทำให้เกิดการออกแบบที่เป็นหนึ่งเดียวและเหนียวแน่น

    โลโก้ตราสัญลักษณ์มีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์กับสถาบันแบบดั้งเดิมและมีชื่อเสียง รวมถึงมหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ และทีมกีฬา

    โลโก้เหล่านี้สามารถสร้างความรู้สึกของมรดกและประวัติศาสตร์ให้กับแบรนด์ได้ด้วยการออกแบบตราหรือตราประทับ

    โลโก้สัญลักษณ์ยังสามารถสื่อถึงความประทับใจของบริษัทที่มั่นคงและมีชื่อเสียง
    ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของโลโก้ตราสัญลักษณ์คือมักมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและองค์ประกอบที่ประดับประดา ซึ่งทำให้ดูดึงดูดสายตาและน่าสนใจยิ่งขึ้น

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้สัญลักษณ์:

    • สตาร์บัคส์
    • ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน
    • เอ็นเอฟแอล
    • บีเอ็มดับเบิลยู
    • เฟอร์รารี่

    ข้อดี:

    • โลโก้ตราสัญลักษณ์สามารถสื่อถึงประเพณี ศักดิ์ศรี และประวัติศาสตร์
    • โลโก้เหล่านี้มักจะให้ความรู้สึกคลาสสิกเหนือกาลเวลาซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าได้
    • การออกแบบตราหรือตราประทับของโลโก้ตราสัญลักษณ์สามารถช่วยสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำได้

    ข้อเสีย:

    • การออกแบบโลโก้ตราสัญลักษณ์อย่างละเอียดอาจทำให้ยากต่อการผลิตซ้ำในขนาดที่เล็กลงหรือในสื่อบางอย่าง เช่น การปักหรือการพิมพ์สกรีน
    • โลโก้ตราสัญลักษณ์บางครั้งอาจดูเป็นทางการหรือเชยเกินไปสำหรับแบรนด์สมัยใหม่ที่ต้องการถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่แปลกใหม่หรือขี้เล่นมากขึ้น
    • โลโก้เหล่านี้อาจใช้งานได้ไม่หลากหลายเท่ากับการออกแบบโลโก้ที่เรียบง่าย ทำให้ยากต่อการปรับให้เข้ากับสื่อการตลาดหรือส่วนขยายแบรนด์ต่างๆ
  8. โลโก้แบบไดนามิก

    โลโก้ไดนามิกคือโลโก้ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตามพารามิเตอร์หรืออินพุตบางอย่าง

    โลโก้ประเภทนี้สามารถใช้เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มีส่วนร่วมและโต้ตอบได้มากขึ้น เนื่องจากโลโก้จะเปลี่ยนไปตามการกระทำของผู้ใช้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม หรือตัวแปรอื่นๆ

    โลโก้แบบไดนามิกสามารถมีได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์เฉพาะที่ใช้ในการขับเคลื่อนลักษณะการทำงาน

    ตัวอย่างของโลโก้ไดนามิก ได้แก่:

    • โลโก้เคลื่อนไหวที่เปลี่ยนรูปลักษณ์เมื่อเวลาผ่านไปหรือตอบสนองต่อการโต้ตอบของผู้ใช้
    • โลโก้ที่เปลี่ยนสีตามเวลาของวันหรือสภาพอากาศ
    • โลโก้ที่ปรับให้เข้ากับขนาดหน้าจอและการวางแนวต่างๆ เช่น โลโก้ที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ที่ปรับขนาดหรือเปลี่ยนตำแหน่งองค์ประกอบเพื่อให้พอดีกับอุปกรณ์ต่างๆ
    • โลโก้ที่รวมเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น โพสต์บนโซเชียลมีเดียหรือคำติชมของลูกค้า

    โลโก้ไดนามิกสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่มีส่วนร่วมและโต้ตอบได้มากขึ้น เนื่องจากโลโก้เหล่านี้ช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับผู้ชมด้วยวิธีใหม่และสร้างสรรค์

    อย่างไรก็ตาม พวกเขายังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนาและบำรุงรักษา และอาจไม่เหมาะกับแบรนด์หรืออุตสาหกรรมทุกประเภท

    แบรนด์ยอดนิยมที่ใช้โลโก้แบบไดนามิก:

    • Google
    • แอร์บีเอ็นบี
    • โคคาโคลา
    • ไนกี้
    • เอ็มทีวี

    แบรนด์เหล่านี้ใช้โลโก้แบบไดนามิกเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมและโต้ตอบได้มากขึ้นสำหรับผู้ชม และเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องและสดใหม่ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

บรรทัดล่าง

การเลือกประเภทโลโก้ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างการจดจำและความภักดีต่อแบรนด์

โลโก้แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป และธุรกิจต่างๆ ควรพิจารณาตัวเลือกอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

Wordmark, lettermark, รูปภาพ, นามธรรม, มาสคอต, ชุดค่าผสม, ตราสัญลักษณ์ และโลโก้ไดนามิก แต่ละอันมีกรณีการใช้งานเฉพาะและสามารถสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กุญแจสำคัญคือการเลือกโลโก้ที่สอดคล้องกับคุณค่า เป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คุณ