อนาคตของตลาดออนไลน์: เทรนด์ที่ต้องระวัง

เผยแพร่แล้ว: 2023-04-24

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ตลาดออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเรา มอบทุกสิ่งตั้งแต่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปจนถึงของสะสมหายาก ความสะดวกสบายและความสามารถในการเข้าถึงของแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าของเรา และความสำคัญของแพลตฟอร์มเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นในอนาคตเท่านั้น ด้วยวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี อนาคตของตลาดออนไลน์จึงเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจจากทั้งธุรกิจและผู้บริโภค ในบล็อกโพสต์นี้ เราจะสำรวจแนวโน้มล่าสุดในตลาดออนไลน์ที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์อีคอมเมิร์ซในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักช้อปออนไลน์ตัวยงหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการนำหน้าเทรนด์เหล่านี้ เทรนด์เหล่านี้คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด!

ร้านค้าMate Dokan

สารบัญ

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้น

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว และตลาดออนไลน์ก็ไม่มีข้อยกเว้น ในความเป็นจริง การใช้ AI ในตลาดออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI หมายถึงชุดของเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรสามารถจำลองสติปัญญาและการตัดสินใจของมนุษย์ได้

  • ภาพรวมของ AI ในตลาดออนไลน์: AI สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธีในตลาดออนไลน์ ตัวอย่างเช่น สามารถใช้อัลกอริทึม AI เพื่อแนะนำสินค้าให้กับผู้ซื้อตามประวัติการเรียกดูและการซื้อของพวกเขา AI ยังสามารถใช้เพื่อปรับปรุงผลการค้นหา ตรวจจับการฉ้อโกง ปรับแต่งข้อความทางการตลาด และปรับราคาให้เหมาะสม
  • ตัวอย่างของการใช้ AI ในตลาดออนไลน์: ตัวอย่างหนึ่งของการใช้ AI ในตลาดออนไลน์คือเครื่องมือแนะนำที่ใช้โดยยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ เช่น Amazon และ Alibaba เครื่องมือเหล่านี้จะวิเคราะห์ประวัติการซื้อและการค้นหาของลูกค้า รวมถึงจุดข้อมูลอื่นๆ เพื่อสร้างคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ อีกตัวอย่างหนึ่งคือการใช้แชทบอทที่อาศัยการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เพื่อจัดการกับข้อซักถามของลูกค้าและให้บริการลูกค้า
  • ประโยชน์ของ AI ในตลาดออนไลน์: การใช้ AI สามารถก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการแก่ตลาดออนไลน์ ตัวอย่างเช่น AI สามารถช่วยธุรกิจต่างๆ ปรับแต่งประสบการณ์การช็อปปิ้งให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและความภักดีของลูกค้า AI ยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการทำให้งานบางอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานของพนักงานที่เป็นมนุษย์ นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยธุรกิจในการระบุรูปแบบและแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งนำไปสู่กลยุทธ์ทางการตลาดและราคาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แนวทางแรกสำหรับมือถือ

แนวทางที่เน้นอุปกรณ์พกพาเป็นปรัชญาการออกแบบที่จัดลำดับความสำคัญของประสบการณ์อุปกรณ์เคลื่อนที่เหนือประสบการณ์เดสก์ท็อปเมื่อสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงตลาดออนไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นใช้อุปกรณ์พกพาเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ การนำแนวทางที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่มาใช้จึงมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับธุรกิจ

  • คำอธิบายของแนวทาง Mobile-First: แนวทาง Mobile First เกี่ยวข้องกับการออกแบบแพลตฟอร์มสำหรับประสบการณ์บนมือถือก่อน แล้วจึงปรับให้เข้ากับประสบการณ์เดสก์ท็อป ซึ่งหมายความว่าแพลตฟอร์มได้รับการปรับให้เหมาะกับหน้าจอขนาดเล็กของอุปกรณ์พกพา โดยเน้นที่การใช้งานง่ายและเวลาในการโหลดที่รวดเร็ว
  • ข้อดีของแนวทางที่คำนึงถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก: การนำแนวทางที่คำนึงถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรกอาจนำข้อดีหลายประการมาสู่ตลาดออนไลน์ ประการแรก มันสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้สำหรับนักช็อปมือถือ ซึ่งนำไปสู่การมีส่วนร่วมและยอดขายที่เพิ่มขึ้น ประการที่สอง สามารถปรับปรุงการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับไซต์ที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ในผลการค้นหา ประการสุดท้าย แนวทางที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรกสามารถนำไปสู่การพัฒนาที่มีประสิทธิภาพและคุ้มทุนมากขึ้น เนื่องจากวิธีนี้ให้ความสำคัญกับคุณลักษณะและองค์ประกอบการออกแบบที่สำคัญที่สุด
  • วิธีที่ธุรกิจสามารถนำแนวทางที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่มาใช้เป็นอันดับแรก ธุรกิจต่างๆ สามารถเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์เว็บไซต์หรือตลาดออนไลน์ที่มีอยู่เพื่อระบุส่วนที่ต้องปรับปรุงสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งอาจรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของหน้า ปรับการนำทางให้ง่ายขึ้น และการออกแบบที่ตอบสนองต่อการทำงานบนหน้าจอขนาดต่างๆ ธุรกิจยังสามารถพิจารณาพัฒนาแอพมือถือที่มอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นสำหรับผู้ใช้มือถือ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ยังสามารถดำเนินการทดสอบโดยผู้ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์การใช้งานบนมือถือจะตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้ชมเป้าหมายของตน

การเติบโตของโซเชียลคอมเมิร์ซ

โซเชียลคอมเมิร์ซคือการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมออนไลน์ การค้าผ่านโซเชียลมีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้นเพื่อค้นหาและซื้อผลิตภัณฑ์ออนไลน์

  • คำอธิบายของโซเชียลคอมเมิร์ซ: โซเชียลคอมเมิร์ซหมายถึงการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram และ Pinterest เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมออนไลน์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงผลิตภัณฑ์ของตนต่อผู้ชมได้กว้างขึ้น และสร้างประสบการณ์การซื้อของผู้บริโภคที่ราบรื่น
  • ข้อดีของโซเชียลคอมเมิร์ซ: โซเชียลคอมเมิร์ซมีข้อดีหลายประการสำหรับธุรกิจ ประการแรก โซเชียลคอมเมิร์ซช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ประการที่สอง โซเชียลคอมเมิร์ซสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีต่อแบรนด์ได้ เนื่องจากโซเชียลมีเดียช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างเป็นส่วนตัวและโต้ตอบได้มากขึ้น ประการที่สาม โซเชียลคอมเมิร์ซสามารถทำให้กระบวนการซื้อง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากพวกเขาสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
  • ตัวอย่างของโซเชียลคอมเมิร์ซ: ตัวอย่างหนึ่งคือปุ่ม "ซื้อ" บน Facebook ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขายผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มได้โดยตรง อีกตัวอย่างหนึ่งคือฟีเจอร์ “ร้านค้า” ของ Instagram ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างหน้าร้านภายในแอพและแท็กสินค้าในโพสต์ ทำให้สามารถซื้อได้ นอกจากนี้ Pinterest ยังได้รวมความสามารถในการช็อปปิ้งไว้ในแพลตฟอร์ม ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ที่ค้นพบบนไซต์ได้

เพิ่มความเป็นจริง (AR) | อนาคตของตลาดออนไลน์

Augmented Reality (AR) เป็นเทคโนโลยีที่นำภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์มาซ้อนทับกับโลกแห่งความจริง โดยมักจะผ่านการใช้กล้องของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต AR ได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดออนไลน์ เนื่องจากช่วยให้ผู้บริโภคสามารถ “ลองสวม” ผลิตภัณฑ์ได้แบบเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

  • ภาพรวมของ AR ในตลาดออนไลน์: เทคโนโลยี AR กำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในตลาดออนไลน์ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใครและโต้ตอบได้สำหรับผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกออนไลน์ใช้ประโยชน์จาก AR เพื่อสร้างประสบการณ์การลองสวมเสมือนจริง ช่วยให้ลูกค้าเห็นว่าผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะอย่างไรและเหมาะสมในแบบเรียลไทม์
  • ตัวอย่างของ AR ในตลาดออนไลน์: ตัวอย่างหนึ่งของ AR ในตลาดออนไลน์คือฟีเจอร์ลองสวมเสมือนจริงที่ Sephora ผู้ค้าปลีกด้านความงามใช้ แอป Virtual Artist ของบริษัทช่วยให้ลูกค้าได้ลองแต่งหน้าลุคและเฉดสีต่างๆ โดยใช้กล้องของสมาร์ทโฟน อีกตัวอย่างหนึ่งคือเครื่องมือจัดวางเฟอร์นิเจอร์เสมือนจริงที่ Wayfair นำเสนอ เครื่องมือนี้ใช้เทคโนโลยี AR เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์จะมีลักษณะอย่างไรและเข้ากับบ้านของพวกเขาก่อนตัดสินใจซื้อ
  • ประโยชน์ของ AR ในตลาดออนไลน์: เทคโนโลยี AR สามารถสร้างประโยชน์มากมายให้กับตลาดออนไลน์ ประการแรก สามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าโดยให้ลูกค้าทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แบบเสมือนจริง เพิ่มความพึงพอใจและยอดขายของลูกค้า ประการที่สอง AR สามารถช่วยลดผลตอบแทนโดยช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น ประการสุดท้าย AR สามารถช่วยให้ธุรกิจโดดเด่นจากคู่แข่งและสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใคร

ธีมเวิร์ดเพรสรัชกาล

การสรุปคำ | อนาคตของตลาดออนไลน์

โดยสรุป อนาคตของตลาดออนไลน์กำลังสดใสด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แนวโน้มหลักที่ต้องระวัง ได้แก่ การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพมือถือ และการรวมปัญญาประดิษฐ์ เมื่อธุรกิจต่างๆ ย้ายเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งสำคัญคือการติดตามเทรนด์เหล่านี้และปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลง เมื่อทำเช่นนี้ คุณจะมั่นใจได้ว่าตลาดออนไลน์ของคุณยังคงแข่งขันได้และมีความเกี่ยวข้องในอีกหลายปีข้างหน้า